ท่านผู้อ่านละครับ คิดว่าอะไร?
ในมุมมองของผม การลงทุนที่ดีที่สุดไม่มีคำตอบจากตัวเลือกที่ให้มาข้างต้น เป็นการลงทุนที่อยู่ไม่ไกล แต่อาจใกล้ตัวจนหลายคนคิดไม่ถึง การลงทุนที่ว่านี้ก็คือ "การลงทุนในตัวเอง" ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา ทั้งนี้เพราะไม่ว่าทรัพย์สินใดๆ ก็มักมีธรรมชาติ จังหวะ และช่วงเวลาในการลงทุนที่เหมาะสมแตกต่างกันไป ท้ายที่สุดแล้วจึงไม่มีอะไรดีกว่ากัน สำคัญอยู่ที่ว่า ท่านจะเลือกใช้เลือกลงทุนมันได้ถูกต้องหรือไม่เท่านั้นเอง
ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ลงทุนในทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ได้ผลตอบแทนในระดับที่พึงพอใจ (มองในมุมตัวเอง ไม่ต้องเทียบกับใคร) มีความสุข และมีเวลาเหลือเฟือที่จะทำในสิ่งที่ชอบและรักได้อย่างสบาย
คำถาม คือ แล้วอะไรหละที่เรียกว่า "การลงทุนในตัวเอง" สำหรับผมการลงทุนในตัวเองนั้นมีองค์ประกอบร่วมกันใน 3 มิติ นั่นคือ
1) การลงทุนในสุขภาพ
ร่างกายจัดเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่สุด ที่คนเราไม่ค่อยดูแล คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตเรียบง่าย และเรื่อยๆ เกินไป จนไม่มีเวลาใส่ใจดูแลต้นทุนที่สำคัญนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน อยู่ หลับ นอน และนั่นมักส่งผลเสียต่อสุขภาพในภายหลัง คำถามคือ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร หากเราลงทุนได้เงินทองมามากมาย แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ได้เที่ยว หรือพอรวยหน่อยอยากไปเที่ยวไกลๆ ก็ต้องใช้รถเข็น ชีวิตแบบนี้เป็นชีวิตที่น่าสงสารมากครับ
ดังนั้น ในทุกขณะของการใช้ชีวิต จงอย่าลืมนึกถึงสุขภาพตัวเอง เริ่มตั้งแต่การพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 3 มื้อ (แล้วก็อย่าเกินด้วย) ออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 30 นาทีเป็นอย่างน้อย ทั้งนี้เพื่อถนอมรักษาสุขภาพให้เป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตของเราได้นานๆ
2) การลงทุนในความคิดและจิตวิญญาณ
ฟังผ่านๆ แล้วอาจรู้สึกเป็นเรื่องมิติลี้ลับสักหน่อย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดครับ การลงทุนในความคิดในมุมมองของผม หมายถึง การรู้จักที่จะค้นหา และเรียนรู้จากผู้คนที่อยู่รอบตัว เปิดใจ หัดมองอะไรที่แปลกใหม่และแตกต่าง เพื่อให้สมองเรารู้จักเรียนรู้ และหัดวิเคราะห์ สังเคราะห์ในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง โดยอาศัยหลักกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าของเราเป็นเครื่องกรอง ทั้งนี้หากคุณรู้จักที่จะเปิดกว้าง และเรียนรู้ทุกสิ่งอย่างอย่างมีสติ จะทำให้คุณมีวิสัยทัศน์ที่กว้าง และมีระบบการคิดที่สามารถประคองการดำรงชีวิตของคุณได้ทุกเรื่อง (ไม่เว้นแม้แต่การลงทุน)
สำหรับในเรื่องของการลงทุนในความคิดนี้ ผมมักจะลงทุนโดยการหาหนังสือดีดีมาอ่าน (ย้ำว่า ต้องดีเท่านั้น เพราะปัจจุบันหนังสือที่เป็นขยะสมองเยอะมาก) หรือหาโอกาสพูดคุยกับผู้ใหญ่ ผู้มากประสบการณ์ และผู้คนในแต่ละวงการ ผมคุยได้ทุกเรื่อง และพบว่าถ้าคุณได้คุยกับคนที่รู้จริงในแต่ละเรื่อง เวลาของการลงทุนในเรื่องต่างๆ เหล่านี้จะน่าสนุกมาก
ส่วนการลงทุนในจิตวิญญาณนั้น ผมหมายถึงการเติมเต็มอารมณ์ตัวเองให้มีความสุข ซึ่งโดยปกติแล้วผมมักแบ่งเวลาให้กับการพักผ่อน ท่องเที่ยว และการปลีกวิเวกอยู่คนเดียวในบางขณะ เพื่อเรียกหรือฟื้นคืนสติ ความคิด และอารมณ์ของตัวเอง ผมพบว่าการปล่อยชีวิตให้วิ่งไปตามกระแสนั้น มักทำให้เราลืมเป้าหมายในการดำรงชีวิตไปจนหมดสิ้น เพราะฉะนั้น การหยุดชั่วขณะ และปล่อยวาง ให้เวลากับความสุขในชีวิตบ้างถือเป็นเรื่องที่ดี และน่ากระทำเป็นอย่างยิ่ง
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากให้คนที่ "อยากรวย" ทุกคนทำ ก็คือ การแบ่งปันเงินบางส่วนของตัวเองเพื่อให้ทาน เพราะผมมองว่า คนเรานั้นจะไม่มีทางร่ำรวยได้เลย หากไม่รู้จักที่จะแบ่งปันให้กับคนอื่น ไม่ต้องทำอะไรให้มันยิ่งใหญ่ เพียงแค่แบ่งปันเงินเล็กน้อยเมื่อมีโอกาสอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็ช่วยชำระจิตใจ และความคิด ให้เราเป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์ได้แล้ว
3) ลงทุนในการเรียนรู้
ท้ายที่สุดแล้ว เครื่องมือในการลงทุนที่ดีที่สุด ก็คือ การลงทุนในการเรียนรู้ โดยเฉพาะการเรียนรู้ด้านการเงิน (Financial Education) ลองคิดดูง่ายๆ ก็ได้ว่า บริษัทของท่านรับท่านเข้าทำงานเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่คุณวุฒิ หรือความสามารถที่ท่านสั่งสมมาจากการลงทุนเรื่องการเรียนรู้ในอดีต
การลงทุนทางการเงินก็เช่นกัน ยิ่งคุณเรียนรู้ หรือทำความรู้จักกับเครื่องมือลงทุนของคุณมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งประสบความสำเร็จในการลงทุนเท่านั้น ไม่เชื่อลองดูตัวอย่าง วอร์เร็น บัฟเฟตต์ (ลงทุนในหุ้น) บิล เกตส์ (ลงทุนในธุรกิจ) หรือจิม โรเจอร์ (ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์) ดูก็ได้ ทั้งสามลงทุนในเครื่องมือทางการเงินเพียงอย่างเดียว แล้วก็ประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับว่าเป็นกูรูในสิ่งที่พวกเขาทำ
คุณเองก็สามารถประสบความสำเร็จทางการลงทุนได้เช่นกัน หากคุณเชื่อในแนวคิด High Understanding, High Returns. ทุกสิ่งในโลกล้วนมี "ธรรมชาติ" ของมัน หากคุณเรียนรู้และเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองลงทุนอย่างลึกซึ้ง เงินทองและความสำเร็จก็จะไหลมาเทมา
ส่วนคนที่คอยเอาแต่วิ่งตามกระแส แห่กันไป เห็นเขาทำอะไรแล้วรวยก็วิ่งไปเรื่อย ไม่เคยหยุดคิด หยุดมอง หรือเรียนรู้ว่า แท้ที่จริงแล้วปัจจัยในการประสบความสำเร็จของเครื่องมือลงทุนต่างๆนั้นเป็นอย่างไร ก็จงอย่าหวังว่าจะประสบความสำเร็จในการลงทุนเลย
นอกเหนือไปจากการเรียนรู้และเข้าใจในสิ่งที่ลงทุนแล้ว สุดท้ายก่อนลงทุนในอะไรก็ตาม (ที่ท่านศึกษามาดีแล้ว) ก็จงอย่าลืมตรวจดู "จริต" ของตัวเองด้วยว่า ตัวท่านมีความสุข และพร้อมที่จะอยู่กับการลงทุนนั้นๆ ไปได้ตลอดหรือไม่ เพราะถ้าไม่ การลงทุนในทรัพย์สินนั้นๆ อาจทำให้ท่านเป็นทุกข์ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เอาแต่กังวลถึงมัน ซึ่งนั้นเป็นชีวิตการลงทุนที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย
จำไว้ว่า
"การลงทุนที่ดีที่สุด คือ การลงทุนที่ทำให้คุณนอนหลับฝันดี"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น