วันเสาร์

รวยอสังหา บทที่ 3:เทคนิกการเลือกซื้อที่ดิน real estate guige

รวยอสังหา บทที่ 3:เทคนิกการเลือกซื้อที่ดิน:

รวยอสังหา บทที่ 3:เทคนิกการเลือกซื้อที่ดิน

เทคนิคการเลือกซื้อที่ดิน

เทคนิคการเลือกซื้อ ที่ดินต้องดูอะไรกันบ้าง

ควรตรวจสอบหน่วยราชการที่เกี่ยว ข้อง เช่นกรมที่ดินหรือที่ทำการเขต เพื่อสอบถามโฉนด ขนาดที่แท้จริงของที่ดินและเจ้าของที่ดินเดิม หรือความมีอยู่จริงของโฉนดที่ดิน ที่ทำการจังหวัด, กรุงเทพมหานครหรือกรมโยธาธิการ เพื่อสอบถามเขตห้ามก่อสร้าง เขตพักอาศัย การตัดถนน การทางพิเศษ เพื่อสอบถามแนวห้ามก่อสร้างจากแนวของทางด่วน กรมทางหลวง เพื่อสอบถามแนวห้ามก่อสร้างจากแนวถนนหลวงหรือเรื่องการตัดถนน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อสอบถามแนวสายไฟฟ้าแรงสูงขนานใหญ่ผ่าน กรมการบินพาณิชย์ เพื่อสอบถามสิ่งก่อสร้างไปบังคลื่นวิทยุ ในส่วนอาคารสูงที่เกิน 15 เมตรขึ้นไป
การตรวจสอบประวัติที่ดิน ว่าที่ดินเดิมเคยเป็นสระน้ำหรือถูกขุดหน้าดินเอาไปใช้หรือไม่ เพราะดินที่ถมลงไปใหม่นั้นจะต้องใช้เวลานานเป็นปีกว่าเนื้อดินจะแน่นและไม่ ทรุดตัว ก่อนปลูกบ้านควรตรวจดูที่ดินว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตัดจนเหลือแต่ตอใต้ ดิน รวมถึงรากแก้วขนาดใหญ่หรือเปล่า เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นบ่อเกิดของปลวกที่จะมากัดกินบ้านเราในภายหลัง
สภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดิน เช่น โรงงาน โรงพยาบาล โรงเรียน หรือวัด
การเลือกที่ดินแถบใกล้ชายทะเล เช่น แถวสมุทรปราการ สมุทรสาคร ควรคำนึงถึงความชุ่มน้ำของเนื้อดิน อันจะมีผลต่อการเลื่อนไหลของเนื้อดินข้างใต้ หรือดินทรุด จะทำให้ต้องใช้เข็มที่ตอกเป็นฐานรากมากกว่าปกติ และมีขนาดใหญ่กว่าบ้านโดยทั่วไปถ้าไม่จำเป็นอย่าเลือกพื้นที่ดินที่เป็นชาย ธง ควรเลือกที่ดิน ที่มีขนาดความกว้างยาวของที่ดินเหมาะสมต่อการปลูกสร้าง
ก่อนการก่อสร้างบ้านจะต้องมีการปรับพื้นที่ดินให้มีความเหมาะสมกับการก่อ สร้างบ้าน โดยการถมและขุดหรือบางทีอาจจะใช้ทั้งการถมและการขุดไปด้วยกัน เช่น การขุดเพื่อทำสระน้ำ สระว่ายน้ำ แล้วนำที่ดินที่เหลือจากการขุดไปถมในส่วนที่จะทำการก่อสร้างบ้านให้สูงขึ้น เป็นเนิน เป็นต้น
การถม (เพื่อการสร้างบ้าน) เพื่อปรับความสูงของดินในพื้นที่ก่อสร้างให้สูงขึ้น อาจสูงเท่ากับระดับถนนภายนอกหรือสูงกว่าระดับถนน 0.50-1.00 เมตร ทั้งนี้ควรพิจารณาถึงระดับการท่วมของน้ำ ระดับถนน และความสวยงามของตัวอาคาร บ้านเรือน
การขุด (เพื่อการสร้างบ้าน) ถ้ามีการขุดระดับต่ำกว่า 2.50 เมตร เพื่อทำห้องใต้ดิน ทำสระว่ายน้ำ หรือถังเก็บน้ำใต้ดิน จะใช้วิธีตอกเข็มไม้ยาวตลอดแนวการขุดเป็นพืดเพื่อกันดินถล่ม หรือขุดดินปรับเป็นแนวเอียง ถ้าดินมีความเหนียวพอ ก็ไม่ต้องใช้เข็มไม้ตอก ถ้ามีการขุดระดับลึก 5.00 เมตร จะแพงเกินไป เพราะจะต้องใช้แผ่นเหล็ก (SHEET PILE) ตอกเป็นแนวกันดินถล่ม และใช้เครื่องตอกที่เป็นเครื่องกลซึ่งมีราคาแพงมาก

วันศุกร์

รวยปัญญา:ลงทุนตัวเองก่อน จึงรวย Rich from Wisdom

เคยมีคนถามผมว่า เครื่องมือทางการเงินที่ดีที่สุดในโลกคืออะไร หุ้น ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ) หรืออื่น ๆ

ท่านผู้อ่านละครับ คิดว่าอะไร?

ในมุมมองของผม การลงทุนที่ดีที่สุดไม่มีคำตอบจากตัวเลือกที่ให้มาข้างต้น เป็นการลงทุนที่อยู่ไม่ไกล แต่อาจใกล้ตัวจนหลายคนคิดไม่ถึง การลงทุนที่ว่านี้ก็คือ "การลงทุนในตัวเอง" ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา ทั้งนี้เพราะไม่ว่าทรัพย์สินใดๆ ก็มักมีธรรมชาติ จังหวะ และช่วงเวลาในการลงทุนที่เหมาะสมแตกต่างกันไป ท้ายที่สุดแล้วจึงไม่มีอะไรดีกว่ากัน สำคัญอยู่ที่ว่า ท่านจะเลือกใช้เลือกลงทุนมันได้ถูกต้องหรือไม่เท่านั้นเอง

ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ลงทุนในทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ได้ผลตอบแทนในระดับที่พึงพอใจ (มองในมุมตัวเอง ไม่ต้องเทียบกับใคร) มีความสุข และมีเวลาเหลือเฟือที่จะทำในสิ่งที่ชอบและรักได้อย่างสบาย

คำถาม คือ แล้วอะไรหละที่เรียกว่า "การลงทุนในตัวเอง" สำหรับผมการลงทุนในตัวเองนั้นมีองค์ประกอบร่วมกันใน 3 มิติ นั่นคือ

วันเสาร์

รวยด้วยการจัดการ:ชีวิตคือการลงทุน โดย ดร.นิเวศน์1 investment for life 1

         อ่านแล้วรวย  วันนี้นำคลิป อีกเรื่องของ ดร.นิเวศน์ อีกเรื่อง ชีวิตคือการลงทุน  มีด้วยกัน 3 คลิป คลิปนี้เป็นคลิปที่ 1  และดูคลิปตอน 2 3 ได้ที่นี่



ดูคลิป รวยด้วยการลงทุน จาก ดร.นิเวศน์ เพิ่มที่นี่ครับ

รวยด้วยการจัดการ:ชีวิตคือการลงทุน2 โดย ดร.นิเวศน์ investment for life 2

         อ่านแล้วรวย  คลิปตอน 2 ของ "ชิวิตคือการลงทุน" โดย ดร.นิเวศน์ ครับ



ดูตอน 1 และ 3 ของ ชีวิตคือการลงทุน โดย ดร.นิเวศน์ ที่นี่
และคลิป รวยด้วยการลงทุน โดย ดร.นิเวศน์ ที่นี่

รวยด้วยการจัดการ:ชีวิตคือการลงทุน3 โดย ดร.นิเวศน์ investment for life 3

          อ่านแล้วรวย  กับตอนสุดท้ายของคลิป ชีวิตคือการลงทุน3 โดย ดร.นิเวศน์ ดูกันเลยครับ
และดูตอน 1 และ 2



ดูคลิป รวยด้วยการลงทุน 1 2 โดย ดร.นิเวศน์
ดูคลิป หลักการลงทุน โดย ดร.สุวรรณ

วันพฤหัสบดี

อ่านแล้วรวย:First thing First! สำคัญกว่า ทำก่อน

               อ่านแล้วรวย รวยอะไรดีในวันหยุดสำคัญ "มาฆะบูชา"  อาจชวนมาเจริญสติแล้ว "รวย" จริงๆ  คนเราในฐานะปัจเจกชน หากมีสติรู้ตัวที่ดีพอ ก็ยังสามารถทำชีวิตให้มันถูกต้องได้ ด้วยการให้ความสำคัญกับเรื่องสำคัญ มากกว่าเรื่องเร่งด่วน มุ่งเน้นไปในการฝึกฝน “วิธีคิด” เป็นสำคัญ มากกว่า “วิธีทำ”

          ถ้าเอาเรื่อง “กฎพาเรโต” มาวิเคราะห์ในเรื่องนี้ ก็จะสามารถได้คำตอบว่า เหตุใดคนส่วนใหญ่ จึงเสียเวลาส่วนใหญ่ไปถึงราว 80% ไปทำกิจกรรมโน่นนี่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ให้ได้ความสำเร็จ กลับคืนมาได้เพียง 20% เท่านั้น ในขณะที่คนจำนวนไม่มาก ใช้เวลาเพียง 20% เท่านั้น ไปทำกิจกรรมใดๆ ที่เขาเห็นว่าสำคัญจริงๆ แล้วก็ได้ผลลัพธ์ ได้ความสำเร็จกลับคืนมา ถึง 80% เลยทีเดียว นี่มันไม่ใช่เรื่องบุญทำ กรรมแต่ง แต่มันเป็นเรื่องของ “คนโง่” และ “คนฉลาด” เท่านั้นเอง (อ่านข้อเขียนเรื่อง “ไล่ล่าเรื่องสำคัญ อย่ามัวเมามันแต่เรื่องเร่งด่วน” ในเว็บไซต์นี้ประกอบด้วย ก็จะเข้าใจกระจ่างขึ้น)

          กล่าวโดยสรุป คนฉลาดเลือกทำในสิ่งที่ “สำคัญ” เท่านั้น และเขาจะลงมือทำทั้ง “สิ่งสำคัญและเร่งด่วน” และ “สิ่งสำคัญ แต่อาจไม่เร่งด่วน” คู่ขนานกันไป อย่างจำแนกแยกแยะ โดยรู้ว่าอะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง อะไรควรทำเอง อะไรควรให้คนอื่นทำ

          ส่วนคนโง่นั้น มักเลือกทำแต่ในสิ่ง “เร่งด่วน” เป็นสรณะ พวกเขาเสียเวลาไปทั้งชีวิต ทำแต่ในสิ่งที่ “เร่งด่วน และไม่สำคัญ” ทั้งสิ้น มีบ้าง บางคน โดยฟลุ้คๆ โดยบังเอิญ พวกเขาก็อาจไปทำสิ่งที่ “เร่งด่วน และสำคัญ” ได้บ้าง ก็ถือว่าพอจะมีโชคดีอยู่บ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่โศกนาฏกรรมก็คือ คนจำนวนมาก กำลังสาละวนอยู่ทั้งชีวิต ไปกับกิจกรรมที่ “ทั้งไม่สำคัญ และไม่เร่งด่วน”

          ท่านผู้อ่านล่ะครับ ท่านกำลังทำกิจกรรมในชีวิต อยู่ในช่องไหน ท่านกำลังเน้นที่เรื่อง “สำคัญ” หรือสนใจแต่เรื่อง “เร่งด่วน” ตรวจตราเรื่องนี้ดูก่อนให้แน่ใจ ก่อนที่จะไปกล่าวหา โทษฟ้าดิน สาปแช่งว่าสวรรค์ไม่มีตา หรือถึงแม้มีตาก็หามีแววไม่ ทำไมพระเจ้าช่างโหดร้ายนัก ทำไมพระเจ้าถึงทำกับคนที่ขยันทำงานชนิดตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต ก้นเป็นสว่าน เรียกว่าร่อนไฟแล่บถึงวันละสิบสองชั่วโมงได้ถึงขนาดนี้ ขยันขนาดนี้ ทำไมได้มาแค่นิดเดียว!!

         มหากาพย์เรื่องราวโศกนาฏกรรมของคนที่ “โง่แต่ขยัน” นั้น เล่ากันอย่างไร ก็ไม่มีวันสิ้นสุดครับ ( นี่ยังไม่นับพวก “ทั้งโง่ ทั้งขี้เกียจ”ด้วยนะครับ ซึ่งขอโทษเถอะ ขอพูดในสิ่งที่พูดอยู่บ่อยๆ อีกทีว่า คนพวกนี้ แม้เอาไปทำปุ๋ย บรรดาต้นไม้ยังร้องกันระงมเลยว่า อย่าเอามันมารดฉัน ฉันยังไม่อยากเฉาตายก่อนเวลาอันควร! คิดดูก็แล้วกัน คนบางคน ขนาดเอาไปทำปุ๋ย ต้นไม้ยังเคืองเลย!! )  

วันพุธ

อ่านแล้วรวย:รวยด้วยการสร้างบริการที่เป็นเลิศ Rich with service excellant

           อ่านแล้วรวย วันนี้เปลี่ยนอารมณ์มาพูดเรื่อง รวยด้วยเทคนิกบริการ    พวกเราเข้าใจดีอยู่แล้วว่าธุรกิจนั้นมี 2 แบบ คือ ธุรกิจการผลิต และ ธุรกิจบริการ  แต่เดี๋ยวนี้ธุรกิจส่วนมากมีส่วนผสมทั้งการผลิตและบริการอยู่ในนั้น   และธุรกิจอะไรที่เติมส่วนบริการลงไป  มักได้มูลค่าเพิ่มขึ้นเยอะ  และธุรกิจซึ่งมีความเป็นเลิศในงานบริการนั้น จะมีคุณลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง หรือหลายๆข้อ ดังนี้ 
        1. บริษัทเหล่านั้นจะมีระบบพนักงานสัมพันธ์ที่ดีกว่าบริษัทอื่นๆ เพราะฝ่ายบริหารมีความเชื่อ
ว่า ความเหนือชั้นกว่าในงานบริการ ย่อมมาจากพนักงานบริการที่เหนือชั้นกว่า และพนักงานที่เหนือชั้นย่อมมาจากระบบพนักงานสัมพันธ์ที่ดีและเหนือชั้น นั่นเอง
         2. บริษัทเหล่านั้นมีการรณรงค์ และปลูกฝังจิตสำนึกต่อการให้บริการที่ดีเยี่ยมแก่ลูกค้า พร้อม
กับการอบรมและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้แก่พนักงานทุกคนว่า “ทำไมจึงต้องให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า”
         3. มีการพัฒนาและจัดตั้งระบบการบริหารต่างๆ ที่เอื้ออำนวยให้พนักงานแต่ละคน สามารถ
ปฏิบัติงานตามมาตรฐานที่กำหนดได้อย่างราบรื่น
         4. บริษัทเหล่านั้นตระหนักดีว่าปฏิบัติการใดๆ ที่เกิดขึ้นในองค์การ ล้วนมีผลกระทบต่องาน
บริการลูกค้า (ภายนอก) เสมอ ดังนั้นจึงมีการจัดตั้งระบบเกื้อหนุนกันและกันภายในองค์การอย่างทั่วถึงและมี ประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันมิให้จุดอ่อนใดๆ เกิดขึ้น ไม่ว่า ณ ส่วนใดภายในองค์การ
        5. บริษัทเหล่านั้นสามารถบริหารระบบงาน เพื่อให้มาตรฐานการให้บริการซึ่งวางไว้สูงนั้น เป็นความจริงได้ สามารถเปลี่ยนแนวความคิด ให้เป็นพฤติกรรมที่เป็นรูปธรรมได้
        6. มีการฝึกอบรมให้ผู้จัดการ ผู้บริหารระดับต่างๆ หัวหน้างาน และพนักงานระดับปฏิบัติการ สามารถธำรงรักษามาตรฐานงานบริการของตนเอาไว้ได้

วันเสาร์

รวยด้วยการจัดการ:รวยด้วยการลงทุน จาก ดร.นิเวศน์ 2 invesment for rich 2

    อ่านแล้วรวย  ต่อกันตอนที่สองหรือตอนจบกับคลิป รวยด้วยการลงทุน 2 จาก ดร.นิเวศน์



ดูคลิป รวยด้วยการลงทุน จาก ดร.นิเวศน์ 1 ที่นี่
และคลิป ชีวิตคือการลงทุน 1 2 3 จาก ดร.นิเวศน์ ที่นี่

รวยด้วยการจัดการ:รวยด้วยการลงทุน โดย ดร.นิเวศน์1 invesment for rich 1

      อ่านแล้วรวย  ย้อนกลับมาดู หลักการลงทุน โดย ดร.นิเวศน์  ตอนที่ 1
และดูต่อตอนที่ 2 ได้ที่นี่ครับ



     นอกจากนี้ยังมีคลิปของ ดร.นิเวศน์ ชีวิตคือการลงทุน 1 2 3

วันศุกร์

เทศกาลรวย : ใครรวยที่สุดในวันวาเลนไทน์ Valentine rich

         อ่านแล้วรวย ชวนพวกเราคิดเล่นๆนะครับว่า  เวลามีเทศกาลขึ้นมา  จะมีคนได้ประโยชน์จากเทศกาลนั้น  และถ้าเราต้องการรวย  เราก็ลองสร้างโอกาสพวกนี้ดูบ้างครับ
        อันดับหนึ่งที่น่ารวยจากเทศกาลนี้ คือ ค่ายมือถือ เมื่อปีที่แล้วมีคนส่ง SMS MMS 35 ล้านครั้ง  กำไรครั้งละ 2 บาท ก็ 70ล้าน
       ค้าปลีก ร้านกิ๊ฟช็อป ร้านของขวัญ ร้านช็อกโกแล็ต ร้านดอกไม้
        สถานบันเทิงยามค่ำคืน  ไม่มีที่ไหนไม่ฉลองเทศกาลนี้แน่  รวมทั้งร้านอาหาร/เครื่ิองดื่ม แอลกอฮอล์
        ธุรกิจโฆษณา  อันนี้เก่งในการใช้จังหวะอยู่แล้ว
        โรงแรม รีสอร์ต  ทั้งที่จัดเป็นทางการและไม่ต้องจัดแต่มีปริมาณเข้าใช้บริการมากกว่าปกติ

       อ่านในหนังสือพิมพ์บอกผลวิจัยของ ม.หอการค้า คาดว่าจะมีการใช้จ่ายประมาณ 2,600 ล้าน  ค่าใช้จ่ายที่มากที่สุดคือการเดินห้าง  ประมาณ 1,100 บาท/คน กินอาหาร 600 บาท ของขวัญ/ดอกไม้ 500 บาท.....

           วันนี้เขียนสั้นๆเล่นๆสนุกๆครับ  เพราะไม่รู้จะชวนใครสนุกวาเลนไทน์ดี อิจฉา

รวยด้วยการจัดการ : ทักษะการจัดการ 8 อย่างของเถ้าแก่ Enterprise skill

         อ่านแล้วรวย ครั้งนี้จะมาเล่าว่าที่เถ้าแก่เกี่ยวกับทักษะการบริหาร 8 เรื่อง ทำได้แน่นอนว่าทำให้การบริหารกิจการของเถ้าแก่ประสบความสำเร็จ  และแน่นอน มันจะนำทรัพย์สินเงินทองและความร่ำรวย และจะได้เปลี่ยนจากว่าที่เถ้าแก่เป็นเถ้าแก่เต็มตัว  ดูกันเลยครับ

ทักษะการจัดการ 8 ประการ
1.การมอบหมายงาน
2.ให้คำแนะนำ
3.ติดตามผลงาน
4.ให้คำชมเชย
5.แก้ปัญหา
6.ให้คำชี้แนะตักเตือน
7.ให้ความช่วยเหลือ
8.การรายงานผล


การมอบหมายงาน
-บอกรายละเอียดงานที่ทำ
-คุณภาพที่ต้องการ
-ปริมาณที่ต้องการ
-กำหนดเวลาที่งานต้องเสร็จ
-สมเหตุสมผล
-ย้ำถึงการติดตามงาน

ให้คำแนะนำ งานที่มอบหมายงาน ควรให้คำชี้แนะในเรื่อง
-เครื่องมือและอุปกรณ์
-วิธีการ
-การเปลี่ยนแปลง
-รายละเอียดของการทำงาน
-วัตถุดิบที่ต้องใช้
-แหล่งที่มาของวัตถุดิบและอุปกรณ์
-ผู้ที่เกี่ยวข้อง

ติดตามผลงาน
-เปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับสิ่งที่ควรจะเป็น
-เปรียบเทียบผลงานที่ได้กับแผนงาน

ให้คำชมเชย
-ตั้งอยู่บนข้อมูลที่ปรากฎ
-คำชมเชยจะมีประสิทธิภาพ ถ้าเหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น
* ตบไหล่
* พยักหน้า
เช่น คุณทำงานได้ดีมาก

การแก้ปัญหา-เมื่อมีค่าต่างไปจากสิ่งที่คาดหมาย
-การแก้ปัญหาที่เป็นระบบ
* หาสาเหตุ
* รวบรวมข้อมูล
* หาวิธีแก้ไขที่เป็นไปได้
* ประเมินผลวิธีแก้ไขที่เป็นไปได้
* ดำเนินการตามวิธีที่ดีที่สุด

การชี้แนะตักเตือน
-พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
-การเผชิญหน้า
-การสื่อสารสองทาง
-พฤติกรรมที่สามารถสังเกตุหรือเห็นได้ชัด

การให้ความช่วยเหลือ
-ให้ความร่วมมือ
-แสดงความใส่ใจ
-พูดคุยส่วนตัว
* แสดงความชัดเจน
* ให้คำแนะนำ
* ให้การสนับสนุน
* ช่วยประณีประนอม (ระหว่าง 2 ฝ่าย)
* มีส่วนร่วม

การรายงานผล-การส่งผ่านข้อมูลที่สำคัญไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องในองค์กร
-รายงานอย่างซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา
-ตรงเวลา


วันพุธ

คนรวย:ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร 100ล้านไม่ยากอย่างที่คิด How to be billionair

ราคาปก 150 บาท
ขาย 60 บาท
สั่งเลย

        อ่านแล้วรวย:เปิดวิธีคิดฉบับ How To..ทำอย่างไร? เคล็ดลับสู่เงิน ‘ร้อยล้าน’ ไม่ใช่แค่ฝันเฟื่อง ‘ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร’ แนะวิธีลงทุนเด็ดๆ โกยกำไรปีละ 20%
“ถ้าคนเราไม่ประหยัด หาเท่าไหร่ก็ไม่พอ(ใช้) นอกจากไปโกงเขามา ไอ้การโกงนี่มันได้มาแบบเงินล้นฟ้า แต่ก็ไม่มีความสุข ถ้าคนเราทำอาชีพสุจริตแต่ไม่ประหยัด ชีวิตนี้ก็ไม่มีทางร่ำรวย”
วลีเด็ดของ ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ประธานชมรมคนออมเงิน และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับการเงินและภาษี วัย 65 ปี ที่ปัจจุบันมีทรัพย์สินเงินทองนับ “พันล้านบาท” จากนิสัยมัธยัสถ์มาตลอดชีวิต
ครอบครัว วลัยเสถียร นับถือคาทอลิก แต่มีความเชื่อว่า โชคดีมาหนเดียวแต่โชคร้ายอาจเกิดขึ้นได้หลายหน ดังนั้น พวกเราต้อง “จ่าย” ให้น้อยกว่า “รับ” เราจึงจะเก็บความมั่งคั่งเอาไว้ได้ … เมื่อหาเงินมาได้ 10 บาท ก็จะนำไปใช้ 5 บาท ส่วนที่เหลืออีก 5 บาท ก็เก็บออม อาจารย์สุวรรณทำมาแบบนี้ตลอดหลายสิบปี ด้วยความเชื่อที่ว่า หาได้มากน้อยเท่าไรไม่สำคัญ จ่ายมากน้อยเท่าไรเป็นเรื่องสำคัญกว่า
ราคาปก 150 บาท
ขาย 60 บาท
สั่งเลย
ดร.สุวรรณ สร้าง “เซอร์ไพรส์” ครั้งแสดงบัญชีทรัพย์สินเมื่อตอนเป็น รมช.พาณิชย์ ช่วงปี 2544 ส่วนตัวมีทรัพย์สินมากถึง 557 ล้านบาท ส่วนภรรยามีทรัพย์สิน 121 ล้านบาท สองคนรวมกันมีทรัพย์สินเกือบ 700 ล้านบาท ปัจจุบันอาจารย์เป็นประธานกรรมการ บมจ.เอสวีไอ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา ใครหลายคนอาจเห็นชื่อประธานชมรมคนออมเงิน แอบ “ออมหุ้น” SVI เกือบ 5 ล้านหุ้น มูลค่าเฉียด 12 ล้านบาท มีต้นทุนอยู่ที่หุ้นละ 2.34 บาท ทำเอาหุ้นตัวนี้ “แอบขึ้น” ไปอย่างมากจากเหล่าสาวกที่แห่ซื้อตาม
ตั้งแต่เกษียณจากงานการเมือง ก็หันมาเอาดีทางด้านงานเขียนหนังสือประเภท “ฮาวทู” มีผลงานบนแผงหนังสือนับสิบเล่ม เรียกได้ว่าเป็น “กูรู” ด้านการเงินชั้นแนวหน้าคนหนึ่งของเมืองไทย อาทิ พ่อสอนลูกให้รวย, สอนเมียให้รวย, สอนเพื่อนให้รวย, กลยุทธ์การปลดหนี้ และจ่ายภาษีก็รวยได้ เป็นต้น และเป็นวิทยากรบรรยายในงานสัมมนาต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ดร.สุวรรณ บอกว่า ถ้าคุณอยากกอดเงิน “ร้อยล้าน” ไม่ได้อยากอย่างที่คิด หากเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ แต่อาจต้องใช้เวลานานถึง 15 ปีขึ้นไป เพราะคงไม่มีใครเก่งมากพอที่จะหาเงินก้อนโตได้ภายในเวลา 3-5 ปีหรอกจริงมั้ย!
หากคุณอยากพบกับ Road to Wealth หรือ หนทางสู่ความมั่งคั่ง ให้ปฏิบัติตัวดังนี้…
ข้อแรก ต้องเป็นคนที่หมั่นศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา ไม่ใช่เรียนจบแล้วก็แล้วกัน ความคิดต้องมีความทันสมัย ก้าวทันทุกเหตุการณ์ ที่สำคัญต้องเก่งภาษาอังกฤษ ไม่เช่นนั้นหากินลำบากแน่นอน
ข้อสอง คุณต้องขยัน เป็นคนหนักเอาเบาสู้ ถึงไหนถึงกัน
ข้อสาม ต้องหมั่นดูแลความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้ตัวเองต้องตกอยู่ในความไม่ปลอดภัย
ข้อสุดท้าย คุณต้องรู้จักประหยัด อดออม อย่าโลภเป็นอันขาด เพราะความโลภเป็นหนทางสู่ความไม่มั่นคงในชีวิต ข้อคิดและนิสัยเหล่านี้ ถือพื้นฐานของคนที่จะร่ำรวย
“เงินร้อยล้านบาท ถ้าอยากมีต้องรีบทำ ควรเริ่มคิดตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปี 2 หรือปี 3 ถ้าช้ากว่านั้นอาจไม่ทันการณ์ แต่ถ้าไม่หวังสูงมาก อยากมีเงินสัก 5 ล้านบาท ก่อนอายุ 40 ปี ก็สามารถทำตามวิธีนี้ได้เหมือนกัน”
การลงทุน เรื่องอายุก็สำคัญ

วันอาทิตย์

รวยด้วยการจัดการ:ลงทุนให้มั่งคั่ง จาก ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร investment concept

    อ่านแล้วรวย วันนี้นำคลิปของ ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ที่ออกรายการตามรอยเซียน ทางช่อง มันนี่ เชเนล    ท่านพูดถึงการลงทุนในทุกภาวะ ต้องมีการการกระจายการลงทุน การลงทุนแบ่งได้กว้างๆ 5 อย่าง  เป็นยังไงลองดูนะครับ

วันศุกร์

รวยด้วยการจัดการ 7 วิธีในการจัดการเงินสดหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพ cash management

               อ่านแล้วรวย  วันนี้จะชวนว่าที่เถ้าแก่ทบทวนวิธีการรวยด้วยหลักการบริหารเงินสดครับ  รับรองถ้าทำได้ กิจการมีกำไรขึ้นทันตาเห็นแน่  เชื่อว่าก็ทำอยู่กันแล้ว  แต่ถ้าหลงลืมบางข้อไป  จะได้ทำให้รวยยิ่งขึ้น  ลองดูนะครับว่าข้อไหนยังไม่ได้ทำ

วิธีในการจัดการเงินสดหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพ

หากไม่มีกระแสเงินสดไหลเข้ามาในธุรกิจของเถ้าแก่  เถ้าแก่อาจต้องพบกับความเดือดเนื้อร้อนใจได้ ความลับบางประการต่อไปนี้จะช่วยให้คุณดำเนินธุรกิจได้อย่างสบายใจ

สิ่งที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจขนาดเล็กประการหนึ่งก็คือสภาพความไม่แน่นอน ผมไม่เพียงแต่กำลังพูดถึงเรื่องการดำเนินธุรกิจที่ต้องมีความต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังพูดถึงการหมุนเวียนของกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย ต่อไปนี้เป็นแนวคิดการปรับปรุงเงินสดหมุนเวียนของธุรกิจขนาดเล็ก

เรียกเก็บเงินโดยทันที

คุณเคยประสบกับเหตุการณ์ที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับสร้างงานและพยายามส่งงานให้ทันจนลืมเรียกเก็บเงินอยู่เสมอใช่หรือไม่ ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เป็นเช่นนั้น ปัญหาที่ร้ายแรงนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติของธุรกิจขนาดเล็ก
หากคุณยังไม่ได้ใช้ระบบการเก็บเงินใดๆ ในขณะนี้ ให้เริ่มต้น (หรือมอบหมายให้พนักงานเริ่มต้น) เรียกเก็บเงินค่าโครงการต่างๆ อย่างเป็นประจำในทันที และเมื่อดำเนินโครงการระยะยาวหรือติดต่อธุรกิจกับลูกค้าในระยะยาวแล้ว ให้เจรจาเป็นการล่วงหน้าในการกำหนดการชำระเงินอย่างสม่ำเสมอแทนที่จะปล่อยให้ยอดหนี้สะสมจนสิ้นสุดโครงการ

สร้างแรงจูงใจให้ชำระเงินคุณเร็วขึ้นกว่าเดิม

บางครั้งธุรกิจขนาดเล็กสามารถลดเวลารอการชำระหนี้ที่ค้างแก่คุณได้อย่างมากด้วยการให้ข้อเสนอลดราคาให้ในกรณีที่ชำระหนี้เร็วขึ้น ผมเคยได้รับใบแจ้งหนี้ในธุรกิจที่เสนอลดให้ 1% หรือ 2% หากชำระภายใน 10 วัน ดังนั้น หากผมมีความคิดที่จะชำระหนี้ภายใน 30 วันอยู่แล้ว ผมคงมีแนวโน้มที่จะรีบเขียนเช็คออกไปทันทีเพื่อจะได้ส่วนลดที่เล็กน้อยนั้น ข้อเสนอดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีทั้งในแง่ของหนี้คงค้างและในแง่เงินสดหมุนเวียนด้วย

หลีกเลี่ยงลูกค้าประเภทชำระหนี้ช้า/ไม่ชำระหนี้ตั้งแต่ต้น

วิธีการที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงปัญหาเงินสดหมุนเวียนอันเกิดจากลูกค้าหรือบริษัทต่างๆ ไม่ยอมชำระหนี้ให้แก่คุณก็คือ การตัดลูกค้าประเภทชำระหนี้ช้า/ไม่ชำระหนี้ตั้งแต่ต้นทิ้งไปไม่ให้เป็นลูกค้าของเรา เพราะฉะนั้น หากมีใครบางคนกำลังจะเป็นลูกค้าสำคัญของเรา เราควรทำการบ้านเสียก่อน โดยถามและตรวจสอบความน่าเชื่อถือของลูกค้ารายดังกล่าวจากผู้ที่เคยทำธุรกิจกับเขามาก่อน

ใช้ระบบแลกเปลี่ยนแทนเงินสด

คุณสามารถลดปัญหาเรื่องเงินตึงได้ด้วยการใช้สินค้าหรือบริการที่คุณมีแลกกับสินค้าหรือบริการของผู้อื่น หากสามารถกระทำได้

ลดปริมาณสินค้าคงคลัง

แม้ว่าคุณไม่สามารถใช้ระบบการจัดการสินค้าคงคลังชนิด "just-in-time" ได้ อย่างน้อยก็ควรให้มีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากเงินที่ใช้จ่ายในสินค้าคงคลังเป็นเงินที่ไม่ก่อให้เกิดดอกผลหรือเป็นเงินออมที่คุณสามารถใช้ได้
การลดปริมาณสินค้าคงคลังบางครั้งเป็นสิ่งที่สามารถทำได้โดยง่าย ผมเคยเห็นภัตตาคารที่ลดจำนวนเหล้าไวน์ที่มีบริการลูกค้าให้เหลือยี่ห้อไวน์ที่มีคุณภาพเพียงไม่กี่ยี่ห้อแทนที่จะมีไวน์ทุกชนิดไว้บริการตามความต้องกรของลูกค้าทุกคน แม้ว่าลูกค้าอาจมีรสนิยมที่ดีในการดื่มไวน์ เขาก็ยังคงได้ดื่มไวน์ที่ดีอยู่เหมือนเดิมโดยไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

การลดจำนวนเจ้าหนี้เงินกู้ให้น้อยลง

ผมทราบว่าการขอกู้เงินของธุรกิจขนาดเล็กเป็นเรื่องยากลำบากมาก แต่ก็แปลกใจที่มีบางรายสามารถกู้เงินได้หลายทางด้วยกัน มีธุรกิจขนาดเล็กรายหนึ่งที่ผมรู้จัก มีพนักงานเพียงหนึ่งคน แต่มีการกู้เงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเขาถึง 4 ประเภทด้วยกันคือ เงินกู้สำหรับอุปกรณ์เครื่องมือ เงินกู้รถยนต์ วงเงินกู้เพื่อดำเนินธุรกิจ และบัตรเครดิตสำหรับธุรกิจ
หากคุณมีเงินกู้อยู่หลายประเภทในการดำเนินธุรกิจของคุณ ให้พิจารณาดูว่า อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขของแต่ละรายเป็นอย่างไร คุณอาจสามารถรวมจำนวนผู้ให้กู้ 2 รายหรือมากกว่านั้น ให้เป็นรายเดียวโดยมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเพื่อทำให้เงินสดหมุนเวียนของคุณดีขึ้น โดยปกติ ผมเป็นคนที่ไม่ชอบยืดระยะเวลาการชำระหนี้เท่าใดนัก แต่ถ้าหากคุณมีความคิดที่จะเจรจากับผู้ให้กู้เพื่อการรวมเงินกู้ทั้งหมดที่มีอยู่ให้เป็นเงินกู้รายเดียว คุณควรเจรจาให้เงินกู้ใหม่นี้มีระยะการชำระหนี้ที่ยาวกว่าเดิมเพื่อแลกกับยอดการชำระรายเดือนที่ต่ำลง

รวยอสังหา บทที่2:ปรับระดับ-ถมที่ ต้องมีเคล็ดลับ Land area leveling

Read-for-Rich in Real estate: รวยอสังหา บทที่2:ปรับระดับ-ถมที่ ต้องมีเคล็ดลับนะค...:

รวยอสังหา บทที่2:ปรับระดับ-ถมที่ ต้องมีเคล็ดลับนะครับ

อ่านแล้วรวยในบทแรก พูดถ฿งสิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อที่ดินมาแล้ว บทที่ 2 นี้เมื่อพี่ได้ที่มาแล้วจะนำมาใช้ประโยชน์ แน่นอนต้องปรับแต่งที่ให้เหมาะสมก่อน และการซื้อที่ที่ไม่ได้ปรับแต่งมาจัดการเองอย่างมืออาชีพนั้น จะซื้อได้ถูกกว่าที่ที่เขาปรับแต่งสำเร็จรูปก่อนขาย กำไรความร่ำรวยส่วนหนึ่งก็มาจากความรู้เทคนิกพวกนี้แหละครับ เอาหละคงต้องการรวยกันแล้ว มาดูซิว่าการปรับ/ถมที่มีเทคนิกอย่างไร
ระดับดินที่เหมาะสม
ก่อนที่จะทำการสร้างบ้าน หรือสิ่งก่อสร้างใดๆ เจ้าของเทบทุกรายจะต้องเกิดคำถามว่า ระดับดินของบ้านหรือโครงการนั้นจะเอาสูงแค่ไหน การที่จะตอบปัญหาข้อนี้ควรจะดูปัจจัยต่างๆอย่างเช่น
  1. บริเวณพื้นที่นั้น มีน้ำท่วมหรือเปล่า ท่วมสูงแค่ไหน อาจจะต้องสอบถามจากผู้คนแถวๆนั้น หรือถ้าสามารถดูร่องรอยน้ำท่วมที่อยู่ตามสิ่งก่อสร้างต่างๆได้ก็ยิ่งดีครับ
  2. ระดับท่อระบายน้ำและบ่อพักสูงแต่ไหน ระดับน้ำในระบบท่อระบายน้ำในพื้นที่นั้นอยู่ที่ระดับไหน สามารถสอบถามได้จากหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบอยู่ หากระดับที่คุณต้องการถมอยู่ค่อนข้างสูงก็ไม่เป็นไรจะไม่มีปัญหาเรื่องการระบายน้ำ แต่ถ้าระดับของคุณค่อนข้างต่ำกว่าพื้นที่ข้างเคียง(ไม่ควร แต่จะด้วยเหตุจำเป็นใดๆก็ตาม) ควรจะเชคตัวนี้ด้วยครับเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำในบ้านเราสามารถระบายออกสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะได้
  3. ระดับถนนหน้าบ้าน และระดับดินพื้นที่ข้างเคียง ปัจจุบันมีการถมยกระดับถนนกันมาก แข่งกันถมทั้งถนน ทั้งเพื่อนบ้าน ถ้าสามารถให้ระดับดินของเราใกล้เคียงกับพื้นที่รอบๆก็น่าจะดีครับ ทั้งในแง่ความปลอดภัยของโครงสร้างรั้ว การระบายน้ำ ฯลฯ
การกำหนดระดับดินถมควรดูปัจจัยรอบๆด้าน ถมสูงหน่อยได้เปรียบ

วันอังคาร

ขายไง ให้รวย ภาค 2 ปรับมุมมองหลักการตลาด Marketing shift

                อ่านแล้วรวย  วันนี้กลับมาพูดเรื่องการขาย/การตลาดอีกครั้งหนึ่งครับ  แน่นอนว่าถ้าเป็นเถ้าแก่และเรียนรู้หลักทางวิชาการบ้าง  ก็คงจะรู้จัก 4P ในการปรับเปลี่ยนแนวความคิดนี้  เป็นยุคที่ถึงเวลาของการลืม 4P?s และให้มอง 4C?s แทน Model 4P?s 

                เป็นแนวคิดเป็นมุมมองที่จับที่ ผู้บริโภคเป็นหลัก (ขณะที่ Model เก่า จะใช้มุมมองของแผนการทางการตลาดที่มุ่งไปที่ความสำคัญของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก) และการคำนึงถึงผู้บริโภคนี้เองที่ทำให้นักการตลาดสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะ 4C?s จะเปิดโอกาสให้นักการตลาดคำนึงถึง การที่จะทำอย่างไรให้สินค้าเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้บริโภค นั่นคือ นักการตลาดต้องรู้จักผู้บริโภคเป็นอย่างดีว่าวันๆ ทำอะไร ใช้สินค้าไปเพื่ออะไร ใช้อย่างไร ใช้บ่อยแค่ไหน มีอะไรเป็นแรงจูงใจ สื่อที่เข้าถึงมีอะไรบ้าง ตลอดจนผู้บริโภคมี Life style อย่างไร เป็นต้น คำถามก็คือ ถ้าจะให้ลืม 4P?s อันคุ้นเคย แล้วหันมาคำนึงถึง4C?s แทนนั้น จะมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ลองมาดูกันชัดๆ ดังนี้

1 จาก Product -> Consumer
เพราะคุณจะไม่สามารถขายของที่คุณผลิตได้ แต่คุณจะสามารถขายของที่ผู้บริโภคต้องการได้ การเน้นไปที่ผู้บริโภคเป็นสำคัญ Customer is the King.กำลังกลายมาเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกองค์การให้ความสนใจ และนั่นคือที่มาของ คำว่า CRM หรือ Customer Relationship Management หรือ บางแห่งก็เรียกว่า Customer Relationship Marketing or Relationship Marketing ที่เราพูดถึงกันมากว่า 2 ปีนี้ละครับ

2 จาก Price -> Cost
เพราะผู้บริโภคไม่สนใจราคาขาย เพราะบรรดา Modern Trade ต่างตัดราคาจนผู้บริโภคสามารถซื้อได้ในราคาที่พอใจแล้ว แต่สิ่งที่ผู้ผลิตต้องคำนึงถึงก็คือ ลดต้นทุนในกระบวนการผลิตสินค้าให้ถูกลง เพื่อที่จะสามารถขายให้บรรดา Modern Trade และ Discount Stores ได้ในราคาที่ถูกที่สุด เพราะประโยชน์ของผู้บริโภคสูงสุด ฉะนั้น ในปัจจุบันนี้ เราจึงได้ยินคำว่า ของดีต้องราคาถูกด้วย จึงจะซื้อ จากการที่ผู้ผลิตต่างหันมาคำนึงถึงการลดต้นทุน หรือลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่มี Value Added นั้น ทำให้เกิดศาสตร์ใหม่ๆ อย่างเช่น พวก ECR และ Supply Chain Management (SCM) และ Logistic ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นหัวข้อในการสัมมนากันมากมาย

3 จาก Place -> Convenience?
ผู้บริโภคไม่สนใจในร้านค้าที่จะต้องขับรถหรือเดินทางไปหาซื้ออีกแล้ว เพราะความรีบเร่งและระบบการจราจรที่ติดขัด ทำให้ผู้บริโภคปรับความคิดมาเป็นความสะดวกในการหาซื้อ ฉะนั้น บริษัทใดที่อำนวยความสะดวกในการหาซื้อสินค้าหรือบริการ ผู้บริโภคก็จะไปซื้อสินค้ากับร้านค้านั้น เช่นบรรดาพวก Convenience Stores หรือ พวก Discount Store ที่แย่งกันเปิดในแหล่งชุมชนกันมากขึ้น หรือแม้แต่อาหาร แทนที่จะให้คนเดินทางไปกินที่ร้าน ก็เกิดการบริการแบบส่งถึงบ้าน หรือ Home Delivery แทน อย่างเช่น Pizza Hut หรือ พวก Fast Foods ทั้งหลาย ผู้บริโภคจะมีความสะดวกสบาย หรือ Convenience ในการซื้อมากขึ้น นอกจากนั้น สถานที่จัดจำหน่ายนั้นจะต้องมีให้ทั่วถึง ที่ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ง่าย อย่างเช่นกรณีเบียร์ ในอดีต เบียร์ทุกค่ายที่ออกมาแข่งกับเบียร์สิงห์ ต่างไป ไม่รอด ที่ไม่รอดไม่ใช่เพราะสินค้ามีคุณภาพสู้เบียร์สิงห์ ไม่ได้ แต่ไม่รอดเพราะสินค้าวางจำหน่ายในร้านค้าไม่ได้ เพราะสิงห์ใช้กลยุทธ์ในการบล็อกคู่แข่งโดยไม่ยอมให้ร้านค้าที่ขายสิงห์ไปขายเบียร์อื่นด้วย ทำให้ร้านค้าที่อยากขายให้ ก็กลัวถูกสิงห์แจ้งยกเลิกสัญญาและไม่ส่งสินค้าให้ขาย ซึ่งร้านค้าเมื่อเปรียบเทียบการช่วยคู่แข่ง กับความอยู่รอดของตัวเอง แน่นอน ร้านค้าเลือกที่จะเอาตัวรอดก่อน เมื่อไม่มีร้านค้าไหน หรือส่วนใหญ่ยอมขายให้เบียร์คู่แข่ง เบียร์คู่แข่งก็ไปไม่รอด ต่อให้โฆษณาไปเท่าไหร่ คนไม่สามารถหาซื้อได้ ก็ไม่มีประโยชน์ แต่พอมาในกรณีของช้าง ทางเบียร์ช้างไม่กลัวกลยุทธ์นี้ของสิงห์ เพราะ Product Lines ของค่ายช้างมีมากกว่า กล่าวคือนอกจากเบียร์แล้ว ค่ายช้างยังมีเหล้าดีอีกด้วย นั่นก็คือ แม่โขง แสงโสม และเหล้าขาว ซึ่งในต่างจังหวัดขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ปรากฏว่าเมื่อสิงห์บล็อกไม่ให้ร้านค้าขายช้าง ทางค่ายช้างก็เอาบ้าง บล็อกไม่ให้ร้านค้าขายสิงห์ หากใครขายสิงห์ ก็จะไม่ขายเหล้าขาวหรือยี่ห้ออื่นๆ ให้ แต่หากจะขายเหล้า ก็ต้องหันมาขายเบียร์ช้าง ในขณะที่ตลาดต่างจังหวัดนั้น เหล้าขายดีกว่าเบียร์ และได้ Margin ดีกว่า ทำให้บรรดาร้านค้าหันไปซบค่ายช้างกันมากขึ้น นี่เรียกว่า กรรมใดใครเคยก่อไว้ กรรมนั้นตามสนองทันทีในชาตินี้ สิ่งที่สิงห์เคยทำกับเบียร์ยี่ห้ออื่นไว้ บัดนี้สิงห์โดนโต้กลับด้วยกลยุทธ์แบบเดียวกัน และทำให้สูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปอย่างมากมายขณะนี้ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากเตือนนักการตลาดรุ่นใหม่ไว้ก็คือ การทำการตลาดสินค้าประเภทอาหารนั้น ต้องระวังให้ดี อยากปล่อยให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสลองชิมสินค้าของคู่แข่งเด็ดขาด เพราะหากผู้บริโภค ได้มีโอกาสชิมสินค้าคู่แข่ง ลิ้นของผู้บริโภคจะเกิดการปรับรสขึ้นมา และเมื่อหันกลับมาใช้สินค้าเดิม ผู้บริโภคจะบอกว่ารสชาติไม่เหมือนเดิม หรือ อร่อยสู้เมื่อก่อนไม่ได้ และก็จะกลับไปเป็นลูกค้าประจำของตราคู่แข่งทันที

4 จาก Promotion -> Communications
นักการตลาดเริ่มมองว่า Promotion เป็นคำที่แคบไป เพราะในกระบวนการส่งเสริมการขายนั้น การสื่อสารสำคัญที่สุด ฉะนั้นนักการตลาดจึง Forget about Promotion แบบแยกส่วน ว่าจะโฆษณาอย่างไร จะลดแลกแจกแถมอย่างไร แต่ให้มองเป็นองค์รวม เป็น Communication ที่สื่อสารกับผู้บริโภคในภาพรวม ใน communications นั้นเราจำแนกออกได้เป็นการสื่อสารต่างๆ ดังนี้
4.1 Advertising หรือ การโฆษณา ก็คือการโฆษณาผ่านสื่อ Mass ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น TV วิทยุ หนังสือพิมพ์ หรือ นิตยสาร เป็นต้น
4.2 Sales Promotion หรือการส่งเสริมการขาย ก็คือการทำการส่งเสริมการขายทั้งที่เป็น Consumer Sales Promotions และ Trade Promotions คือการส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่ผู้บริโภค ซึ่งมีทั้งการลด แลก แจก แถม การชิงโชค การแข่งขัน การแจกของตัวอย่าง และอื่นๆอีกมากมาย ส่วนการส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่ร้านค้านั้น ก็เป็นการส่งเสริมการขายที่มุ่งให้ร้านค้าช่วยในการผลักดันให้สินค้าเราขายดีกว่าคู่แข่ง เช่นการจัดการให้ Incentive การพาร้านค้าไปเที่ยว และสัมมนา การให้ค่าช่วยจัด Display ร้าน และการให้ส่วนลดต่างๆ เป็นต้น
4.3 Personal Selling หรือพนักงานขาย พนักงานขายก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสาร หากไม่มีการอบรมพนักงานขายที่ดี พนักงานขายอาจทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรเสียหายได้ และอาจไม่สามารถตอบคำถามของร้านค้าหรือลูกค้าได้ ทำให้การขายจะไม่มีประสิทธิภาพ
4.4 Publicity หรือการประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในกระบวน การสื่อสารการตลาด (Marketing Communications) เพราะหากองค์กรได้มีการประชาสัมพันธ์ไม่ดี องค์กรนั้นก็อาจถูกมองเป็นภาพลบได้ และบ่อยครั้งที่องค์กรมีปัญหากับผลิตภัณฑ์ หากการประชาสัมพันธ์ไม่ดี องค์กรนั้น ก็อาจสูญเสียตลาดไปเลยก็ได้ เช่น เมื่อคราวที่มีรายการว่า ผลิตภัณฑ์ยาแก้ปวด Tylenol ของ Johnson & Johnson ในอเมริกามีสารไซยาไนด์ ผสมอยู่ทำให้คนกินแล้วตาย ทันทีที่มีข่าวเช่นนั้นออกมา ประธานบริษัท Johnson & Johnson ออกมาประกาศทันทีว่าได้สั่งให้มีการเก็บสินค้า Tylenol กลับหมด และทดแทนด้วย Tylenol ใหม่ที่ประกันว่าจะไม่มีความผิดพลาดอย่างแน่นอน เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในบริษัทและสินค้าของบริษัท การออกมาตอบสนองทันทีทำให้ภาพลักษณ์ของ Johnson ถูกมองว่าเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมสูง ทำให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ Tylenol อีกครั้ง และ Tylenol ก็ยังสามารถครองความเป็นเจ้าตลาดได้ในสินค้ายาแก้ปวดนั่นเอง หรืออย่างกรณีของ DTAC เร็วๆ นี้ ที่โดนทาง องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยออกมาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่าจะตัดการต่อเชื่อมสัญญาณกับ DTAC เพราะ DTAC ไม่ยอมชำระค่าต่อเชื่อมสัญญาณให้ ทศท. ทำให้ผู้บริโภคตกใจ และส่งผลให้ยอดขายตกลงทันทีอย่างน่าใจหาย จนประธานบริษัทคือคุณบุญชัยต้องออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ทำไม DTAC ถึงไม่ยอมจ่ายค่าต่อเชื่อมสัญญาณ ซึ่งหากทาง DTAC ได้ใช้กระบวนการสื่อสารด้านประชาสัมพันธ์ที่ดี โดยการประชาสัมพันธ์ถึงความไม่เป็นธรรม และความไม่ชอบมาพากลของ ทศท. ที่คิดกับ DTAC แต่ไม่คิดกับคู่แข่ง ทำให้เกิดความได้เปรียบในด้านการแข่งขันนั้น ประชาชนอาจเห็นใจและเข้าข้าง เพื่อให้ ทศท. หยุดเก็บหรือให้เก็บอีกค่ายเท่ากัน เรื่องความตกใจของผู้บริโภคก็คงไม่เกิดขึ้น และ DTAC ก็คงไม่ต้องสูญเสียตลาดไปในช่วงนั้น อย่างน่าเสียดาย เรื่องนี้ต้องโทษกุนซือที่ให้คำแนะนำในการฟ้อง ทศท. ว่าไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อน
4.5 Direct Marketing and Direct Response เป็นการสื่อสารการตลาดที่ใช้การตลาดแบบตรงและการใช้ Direct Mails เข้ามาช่วยในการทำการตลาด ธุรกิจที่ใช้กันมากที่สุดก็เห็นจะได้แก่ ธุรกิจการเงิน และบัตรเครดิต ที่มีการส่งจดหมายเชิญชวนให้มาเป็นสมาชิกบัตรเครดิต หรือส่งพนักงานขายโทรไปนัดหมายเพื่อนำเสนอสินค้าให้ เป็นต้น
4.6 Event Marketing การสื่อสารโดยการสร้างสถานการณ์หรือเหตุการณ์ขึ้น และนำเอาเหตุการณ์นั้นมาทำกิจกรรมทางการตลาด ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็วๆ นี้ The Mall ได้มีการนำเอาคนที่สามารถอยู่กับงูได้โดยงูไม่กัด มาโชว์ที่ เดอะมอลล์บางแค ปรากฏว่ามีผู้คนมาดูมากมายและจากเหตุการณ์นั้น ทำให้ เดอะมอลล์สามารถเพิ่ม Traffic และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกมากมาย
4.7 Exhibitions การจัดการแสดงสินค้า ในปัจจุบันการจัดงานแสดงสินค้าเริ่มมีขึ้นมากมาย บางบริษัทที่มีงบการส่งเสริมการขายหรือโฆษณาต่ำ ไม่สามารถสู้กับองค์กรใหญ่ๆ ได้ ก็หันมาจับตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ก็หันไปเช่าพื้นที่ในงาน Furniture Fair แล้วจัดแสดงสินค้า ซึ่งได้กลุ่มเป้าหมายที่ตรงกว่า เพราะหากไปเช่าเนื้อที่ในศูนย์การค้าเพื่อโชว์สินค้านั้น ค่าเช่ามันแพง และคนที่เข้าไปในศูนย์การค้าไม่ใช่ทุกคนจะเข้าไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ แต่คนที่เข้าไปดูงานเฟอร์นิเจอร์ แฟร์ ส่วนใหญ่ก็จะไปมองหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ ฉะนั้น ลูกค้าที่แวะเข้ามาชมในบูธของเราก็คือลูกค้าผู้มุ่งหวังทั้งนั้น แถมค่าเช่าก็ถูกด้วย
4.8 Cable TV Advertising/ Web TV advertising ในบ้านเรา Cable TV ยังไม่อนุญาตให้มีการโฆษณา แต่ก็มีการยกเว้นบ้างที่หากเป็นการโฆษณาภาพลักษณ์ ผมก็ยังเห็นมีการให้ทำกันอยู่ในหลายช่อง แต่ช่องที่ทีมโฆษณาแล้วทาง อสมท. อนุญาต ก็คือ ช่อง CNBC ข่าวในช่องนี้ จะมีการตัดไปโฆษณาบ่อย แต่เจ้าของรายการบอกว่า ตัดไม่ได้ เพราะเขาฉลาดมากโดยการคงรายงานเรื่องหุ้นไว้บริเวณใต้จอ ทำให้เหมือนกับว่า Content ยังอยู่ หากไปตัดออก ก็จะทำให้ Content ของรายการหายไป ผู้ชมก็จะด่า อสมท. นี่ก็เป็นความฉลาดของรายการ CNBC หากรายการอื่นจะเอาไปเป็นแบบอย่างก็น่าจะได้ นะครับ ความจริงหากอนุญาตให้มีการโฆษณาใน Cable TV ได้ และทำให้ค่าบริการรายเดือนถูกลง ผมว่าผู้ชมสมาชิกก็คงไม่ว่า เพราะเดี๋ยวนี้ โฆษณาหลายเรื่องน่าสนใจมาก แต่นี่ไม่ยอมลดราคาแถมยังจะขอแต่ค่าโฆษณา มันก็ไม่ค่อยยุติธรรม
4.9 Internet Advertising การโฆษณาบน Internet ซึ่งก็เป็นสื่อใหม่ที่หลายธุรกิจให้ความสนใจ โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยว สายการบิน และ โรงแรม จะได้ผลมาก
?
จะเห็นได้ว่า ยุคนี้นับเป็นยุคที่เรา ในฐานะนักการตลาดและนักโฆษณา ต้องระวังผู้บริโภค ซึ่งเข้ามาแทนที่แต่ครั้งอดีตที่ผู้ซื้อจะต้องเป็นฝ่ายระวังเรา นี่เป็นเพียงบางส่วนของการวางแผน IMC ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพของ McDonald?s ด้วยการคำนึงถึง 4C?s และเป็นการสื่อสารที่คำนึงถึง Brand contact ในทุกจุด รวมทั้งเป็นการวางกลยุทธ์การสื่อสารที่สอดคล้องตรงกันกับ trend ใน Life style ของผู้บริโภค ที่สามารถทำให้สินค้ากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ที่ผู้บริโภคนึกถึงเสมอ