วันศุกร์

อ่านแล้วรวยเฉลย ทำไมบล็อกนี้พูดถึงหนังสือพ่อรวยสอนลูกกับหนังสือหุ้น ดร.นิเวศน์เยอะกว่าเรื่องอื่น

ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน
คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก
อ่านแล้วรวยขายคู่
150 บาท
                    
          
         อ่านแล้วรวย:หลายคนที่ติดตามบล็อกนี้อาจสงสัยว่าทำไมที่นี่พูดถึงหนังสือ 2 เล่ม ที่บางทีเหมือนกลุ่มเป้าหมายไม่ได้เป็นกลุ่มเดียวกันชัดเจนนัก  แม้ทั้ง 2 กลุ่มจะมุ่งหวังความร่ำรวยเหมือนกัน 
              แน่นอนในพ่อรวยสอนลูกนั้นถึงแม้พูดเรื่องเงินสี่ด้านสำหรับคนสี่กลุ่ม  แม้ว่านักลงทุนที่จะ รวย ในหุ้นจะเป็นกลุ่มหนึ่งที่พ่อรวยแนะนำว่าเราควรจะเป็นก็จริง  แต่พ่อรวยก็ยังชี้ให้เห็นถึงการสร้างธุรกิจของตนเองขึ้นมา  การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  และการสร้างเครือข่ายเพื่อเป็นพลังทวีคูณ ซึ่งทั้ง 3 เรื่องหลังดูจะมีน้ำหนักกว่าเรื่องหุ้นเสียอีก
            แต่ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  ผู้เป็นต้นแบบ รวยด้วยหุ้นพันธุ์แท้  ที่ยึดแนวทางของ วอร์แรน บัฟเฟต และ จอร์จ แกรแฮ


         แต่ The Magic of Thinking(คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก) เล่มนี้น่าจะทำให้ผมคิดว่าแท้ที่จริงแล้วความคิดของ พ่อรวยสอนลูก กับแนวคิดของ ดร.นิเวศน์ น่าจะไปในแนวทางเดียวกัน  ไม่นั้น ดร.นิเวศน์ คงไม่เลือกที่จะแปลหนังสือเล่มนี้หรอก  แน่นอนคนเราจะเลือกแปลหนังสือเรื่องไหนในบางคนอาจถูกว่าจ้างเพราะมีความเชี่ยวชาญด้านภาษา  แต่สำหรับ ดร.นิเวศน์ ผมเชื่อว่าท่านแปลเพราะท่านอาจแล้วสรุปได้ว่าหนังสือเล่มนี้มีคุณค่าที่จะเผยแพร่ให้คนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงหนังสือที่มีตรรกความคิดที่ดี   โดยไม่มีอุปสรรคทางด้านภาษามาเป็นปัญหา  และ คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก เล่มนี้แม้จะพยายามชี้ภาพให้เราได้เปรียบเทียบระหว่างผู้ที่หวัง รวย กับความคิดของคนทั่วไป  แน่นอนเป็นเรื่องวิธีคิด รวย เป็นหลัก  แต่ถ้าอ่านแล้วจะรู้ว่าครึ่งหลังของหนังสือเล่มนี้พูดเรื่องการทำธุรกิจเครือข่าย และ พลังทวีคูณ ซึ่งผมก็เลยสรุปเองว่า ดร.นิเวศน์ น่าจะมีความเชื่อเรื่อง พลังทวีคูณ เช่นเดียวกับที่ พ่อรวยสอนลูก เชื่อ
          อยากให้อ่านจริงๆครับสำหรับเล่มนี้หากใครยังไม่เคยอ่าน The Magic of Thinking  ไม่ต้องซื้อที่นี่ก็ได้ครับ  แต่เชียร์ให้อ่านมาก ตามร้านหนังสือทั่วไปเข้าใจว่ายังมี  แต่ถ้าอบากรู้ก่อน  อ่านตรงนี้ครับ  ผมนำมาจากบล็อก www.sarut-homesite.net ซึ่งสรุปย่อจากทั้งเล่มได้น่าอ่านดีมากครับ   นี่คือทั้งหมดจากบทความดังกล่าวครับ




Blog 9 : ข้อคิดดีๆจากหนังสือ The Magic of Thinking Big “คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก”

Blog 9 : ข้อคิดดีๆจากหนังสือ The Magic of Thinking Big “คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก”

Posted by admin in My Blog on พ.ย. 9th, 2010 | no responses
1 Star2 Stars3 Stars4 Stars5 Stars (No Ratings Yet)

เล่มนี้อ่านแล้วชอบมากครับ ได้ข้อคิดดีๆเยอะมาก เลยต้องจดบันทึกเอาไว้อ่านใหม่
เนื้อหาเหมาะสำหรับทุกคน ทุกวัย รวมไปถึงคนที่อยากหาแรงจูงใจในการเริ่มต้นทำสิ่งต่างๆ จากคนที่ไม่กล้าทำอะไร ก็อาจจะมีความกล้ามากขึ้นครับ
จำไว้ว่า ‘คิดใหญ่’ ดีกว่าในทุกทาง
ลองดูครับ
####
“ความสำเร็จนั้นไม่ได้ถูกกำหนดโดยขนาดของสมอง แต่ถูกกำหนดโดยขนาดของความคิดของคนคนนั้น”
“ไม่มีอะไรที่ดีหรือเลว เว้นเสียแต่ว่าความคิดทำให้มันเป็นเช่นนั้น” ; เชคสเปียร์
คิดใหญ่แล้วคุณจะมีชีวิตที่ใหญ่ขึ้น
ชีวิตนี้สั้นเกิดกว่าจะเป็นคนเล็ก
ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้
ความศรัทธานั้นสามารถเคลื่อนแม้กระทั่งภูผา
ถ้าหากคุณไม่เชื่อในความสามารถของคุณเองเสียแล้ว ความล้มเหลวก็รอคุณอยู่ข้างหน้า
ศึกษาและสังเกตทัศนคติของผู้ที่ประสบความสำเร็จ แล้วเรียนรู้วิธีการที่คนเหล่านั้นใช้ทำงานและตัดสินใจ นำมาปรับใช้กับตัวเอง
ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณทำได้ คุณก็ไม่มีหนทางที่จะทำ
จะไม่มีใครเชื่อในตัวคุณ จนกว่าคุณจะเชื่อใจและมั่นใจในตนเอง
คิดการใหญ่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จำไว้ว่าความคิดใหญ่และแผนการใหญ่นั้นปกติจะทำได้ง่ายกว่าความคิดเล็กและแผนการเล็ก
คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดใน 2 ประการหลักๆ  เกี่ยวกับเรื่องของความฉลาดคือ
1. ประเมินหัวสมองของตัวเองต่ำเกินไป
2. ประเมินหัวสมองของคนอื่นสูงเกินไป

สิ่งที่เป็นสาระจริงๆนั้น ไม่ใช่ว่าคุณจะฉลาดแค่ไหน แต่เป็นว่าคุณใช้สิ่งที่มีอยู่อย่างไร
มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่ง ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่เคยถูกถามว่า 1 ไมล์มีกี่ฟุต ไอน์สไตน์ตอบว่า “ผมไม่ทราบ ทำไมจะต้องจำข้อมูลเหล่านี้ให้รกสมองในเมื่อผมสามารถค้นหาคำตอบได้ภายใน 2 นาที จากหนังสืออ้างอิง”
หลัก 3 ประการที่จะรักษาโรคชอบแก้ตัวว่าไม่ฉลาด
1. อย่าประเมินมันสมองของคุณต่ำเกินไป และอย่าประเมินมันสอมองของคนอื่นสูงเกินไป ยึดมั่นกับสิ่งที่คุณมี ค้นให้พบความสามารถพิเศษที่คุณมีอยู่ อย่าลืมว่าปริมาณสมองไม่เป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือวิธีที่คุณใช้สมองของคุณจัดการกับสมองแทนที่จะห่วงเกี่ยวกับเรื่องไอคิวของคุณ
2. เตือนตัวเองวันละหลายๆครั้งว่า ทัศนิคติสำคัญกว่าสมอง ฝึกให้มีทัศนคติเป็นบวกทั้งที่บ้านและที่ทำงาน หาเหตุผลว่าทำไมคุณจะทำได้ ไม่ใช่เหตุผลว่าทำไมจึงทำไม่ได้
3. จำไว้ว่า ความสามารถที่จะคิดมีค่ามากกว่าความสามารถในการจำข้อมูลและตัวเลขมาก ใช้สมองของคุณในการสร้างและพัฒนาความคิด หาวิธีใหม่ๆในการทำสิ่งต่างๆ

อายุเป็นเพียงตัวเลข คุณจะแก่ก็ตัวเมื่อคุณคิดว่าตัวเองแก่เท่านั้น
อย่าเป็นคนเพ้อฝัน อย่าคิดให้เปลืองสมองและฝันถึงวิธีการเอาชนะหรือประสบผลสำเร็จโดยไม่ต้องทำอะไรเลย คุณไม่อาจจะประสบผลสำเร็จได้โดยอาศํยโชคชะตาอย่างแน่นอน ความสำเร็จมาจากการกระทำและการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งถึงหลักการต่างๆที่ทำให้เกิดความสำเร็จ
“การทำแต่สิ่งที่ถูกต้องทำให้ผมกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของอเมริกา” ; เจ. ซี. เพนนี
ทำในสิ่งที่ถูกต้องและรักษาความมั่นใจในตนเอง นั่นคือการคิดที่ทำให้ตนเองประสบผลสำเร็จ
คนที่คิดใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างภาพที่เป็นบวก มองไปข้างหน้า และมองโลกในแง่ดี ทั้งในจิตใจของตนเองและในสจิตใจของผู้อื่น ในการที่จะคิดใหญ่ต้องใช้คำและวลีซึ่งสร้างภาพพจน์ที่เป็นบวกขึ้นในจิตใจ
ก่อนที่จะบ่น กล่าวหา ตำหนิใครหรือจะโต้ข้อกล่าวหาของใคร ให้ถามตัวคุณเองเสียก่อนว่า “มันสำคัญจริงๆหรือ?” ในเกือบทุกกรณีมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย เพราะฉะนั้นคุณหลีกเลี่ยงความขัดแย้งได้
จำไว้ว่าคิดใหญ่ดีกว่าในทุกทาง
1. อย่ามีปมด้อย เอาชะความรู้สึกที่ดูถูกตัวเอง มุ่งเน้นในคุณสมบัติของตนเอง คุณดีกว่าที่คุณคิด
2. ใช้คำของคนที่คิดใหญ่ ใช้คำที่ใหญ่ สดใส และรื่นเริง ใช้คำพูดที่ให้สัญญาว่าจะชนะ ให้ความหวัง ความสุข ความรื่นเริง หลีกเลี่ยงคำที่สร้างภาพพจน์ที่ไม่รื่นเริงของความล้มเหลว การพ่ายแพ้ และความโศกเศร้า
3. มองอนาคตให้ไกลขึ้น ดูว่าอะไรเป็นไปได้ ไม่ใช่เฉพาะสิ่งที่เป็นอยู่ ฝึกเพิ่มคุณค่าให้กับสิ่งต่างๆ คนอื่น และตัวคุณเอง
4. มองงานของคุณให้ใหญ่ขึ้น คิดอย่างจริงจังถึงความสำคัญของงานที่คุณทำอยู่
5. อย่าคิดเรื่องจุกจิก เอาใจใส่ต่อวัตถุประสงค์หลัก ก่อนที่จะเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องจุกจิกทั้งหลาย ถามตัวคุณเองก่อนว่า มันสำคัญอะไรนักหรือ

เติบใหญ่โดยการคิดใหญ่
เมื่อคุณเชื่อว่าสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ จิตใจของคุณจะทำงานเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าทำไมจึงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าคุณเชื่อ เชื่อจริงๆว่าสิ่งใดเป็นได้ จิตใจของคุณก็จะทำงาน และช่วยให้คุณหาหนทางที่จะทำมัน
ผู้เขียน ; “ผมค้นพบว่ายิ่งคนคนนั้นเป็นคนใหญ่ เขายิ่งมีแนวโน้มที่จะให้คุณเป็นฝ่ายพูด แต่ถ้าเป็นคนเล็ก เขามีแนวโน้มที่จะสวดให้คุณฟัง” – คนใหญ่ผูกขาดการฟัง คนเล็กผูกขาดการพูด
อย่าปล่อยให้ความคิดหลุดไป จงเขียนลงบนกระดาษ ทุกๆวันความคิดดีๆจำนวนมากเกิดขึ้นและตายไปอย่างรวดเร็ว เพราะมันไม่ได้ถูกบันทึกเอาไว้
สิ่งที่คุณคิด กำหนดสิ่งที่คุณกระทำ, สิ่งที่คุณกระทำ กำหนดสิ่งที่คนอื่นจะมีปฏิกิริยากับคุณ
ในทุกสถานการณ์ของชีวิต ถามตัวเองว่า นี่เป็นวิธีการที่คนสำคัญ(คนที่ประสบความสำเร็จ)คิดใช่หรือไม่?” แล้วเชื่อฟังคำตอบนั้น
การติดต่อใกล้ชิดกับคนที่มีความทะเยอทะยานสง จะทำให้คุณอยากไขว่คว้าดวงดาว
อุปสรรคหมายเลขหนึ่งบนถนนสู่ความสำเร็จในระดับสูงก็คือความรู้สึกที่ว่า ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม ทัศนคตินี้เกิดจากพลังต้านหลายๆประการที่ชี้นำความคิดของคุณไปสู่ระดับกระจอก
คนใหญ่ไม่หัวเราะความคิดใหญ่
เมื่อทัศนคติถูกต้อง ความสามารถของเราจะขึ้นสู่จุดสูงสุด และผลสำเร็จที่งดงามก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะตามมา
ถ้าจะกระตุ้นคนอื่นได้ คุณต้องกระตุ้นตนเองเสียก่อน
ผลสำเร็จเกิดขึ้นเป็นสัดส่วนกับความกระตือรือร้นที่ใส่ลงไป
มันคุ้มที่จะทำให้คน “เล็ก” รู้สึกเหมือนคนใหญ่
ฝึกขอบคุณด้วยการยิ้มอย่างจริงใจ การยิ้มทำให้คนอื่นสังเกตเห็นและรู้สึกดี
กฏ 10 ข้อสำหรับ ทำให้คนชอบคุณ ของ ส.ว.ลินดอน บี. จอห์นสัน
1. เรียนรู้ที่จะจำชื่อคน การขาดประสิทธิภาพที่จุดนี้อาจจะแสดงให้เห็นว่าความสนใจของคุณยังไม่ได้เปิดออกไปเพียงพอ
2. เป็นคนที่เป็นกันเอง เพื่อว่าคนที่พบคุณจะได้ไม่เกิดความเครียด
3. ทำตัวให้เป็นคนง่ายๆ เพื่อว่าสิ่งต่างๆจะไม่ทำให้คุณหัวเสีย
4. อย่าอวดดี ระวังการแสดงออกที่จะสร้างความรู้สึกว่าคุณรู้ทุกอย่าง
5. ทำตัวให้น่าสนใจ เพื่อที่ว่าคนที่เกี่ยวข้องกับคุณจะได้บางสิ่งบางอย่างที่มีประโยชน์
6. พยายามที่จะตัดความ “หลุกหลิก” ของบุคลิกภาพของคุณออกไป แม้แต่ส่วนที่คุณอาจทำไปโดยไม่รู้ตัว
7. พยายามที่จะไกล้เกลี่ยความไม่เข้าใจทุกอย่างที่คุณเคยมีหรือที่กำลังมีอยู่อย่างจริงใจบนพื้นฐานของศาสนา ลืมความขมขื่นให้หมด
8. ฝึกชอบคน จนกระทั่งคุณทำได้จริงๆ
9. อย่าพลาดโอกาสแม้แต่ครั้งเดียวที่จะพูดแสดงความยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น หรือแสดงความเห็นใจในความโศกเศร้าหรือผิดหวัง
10. ให้ขวัญและกำลังใจแก่คน และเขาจะมีความรักต่อคุณอย่างแท้จริง

เป็นฝ่ายเริ่มก่อนในการสร้างความเป็นเพื่อน
ยอมรับความจริงว่าไม่มีใครสมบูรณ์ 100%, ยอมรับความจริงว่าคนอื่นมีสิทธิที่จะแตกต่าง, อย่าเป็นคนชอบแย้ง แต่เพิ่มความคิดประเภท “ต่างคนต่างก็ดี” ลงในหลักปรัชญาของคุณ
บุคคลที่พูดมากที่สุดและบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงสุด มักจะไม่ใช่คนคนเดียวกัน
มันคุ้มที่จะแสดงความเอื้อเฟื้อให้กับคนที่คุณไม่รู้จักและไม่คิดว่าจะรู้จัก
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยเพียงแต่นั่งคิดถึงมัน
บทพิสูจน์ของคนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่ความสามารถในการขจัดปัญหาทั้งหมดก่อนที่เค้าจะลงมือปฏิบัติ แต่เป็นความสามารถที่จะหาคำตอบให้กับความยุ่งยากต่างๆเมื่อเขาต้องประสบมัน จงข้ามสะพานเมื่อคุณมาถึง
เมื่อคนที่เป็นคนต่ำสุดล้มลง เขาจะไม่ลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่เขาจะนอนแย่อยู่ตรงนั้น ส่วนนายปานกลางลุกขึ้นมา คุกเข่า และคลานออกไป แต่เมื่อปลอดสายตา เขาก็จะวิ่งหนีไปในทิศทางตรงกันข้ามเพื่อที่เขาจะแน่ใจได้ว่าจะไม่ถูกน็อคลงไปอีก แต่นายสำเร็จมีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไป เมื่อเขาถูกน็อค เขาจะรีบลุกขึ้นยืน เรียนรู้บทเรียน ลืมความพ่ายแพ้ แล้วก้าวไปข้างหน้า
เราสามารถเปลี่ยนความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะ โดยค้นหาบทเรียนและใช้มัน เสร็จแล้วมองย้อนกลับไปยังความปราชัยนั้นแล้วยิ้ม
หยุดโทษโชคชะตา การโทษโชคชะตาไม่ทำให้ใครสามารถไปในที่ที่ต้องการจะไปได้
ทุกๆขั้นตอนของความสำเร็จของมนุษย์ สิ่งประดิษฐ์คิดค้นของเราไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก การค้นพบทางด้านเวชกรรม ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทางวิศวกรรม และความสำเร็จทางธุรกิจทั้งหมด ล้วนแล้วแต่ถูกจินตนาการก่อนที่จะกลายเป็นความจริง
หลีกเลี่ยงการถากถางแดกดัน หลีกเลี่ยงการเยาะเย้ย หลีกเลี่ยงการทับถมคนอื่น และหลีกเลี่ยงการซ้ำเติมคนที่ผิดพลาด
คิดอย่างก้าวหน้า เชื่อในความก้าวหน้า และผลักดันเพื่อความก้าวหน้า
เชื่อและผลักดันความก้าวหน้า แล้วคุณจะเป็นผู้นำ
บุคคลผู้ประสบความสำเร็จในวงการใดก็ตามใช้เวลาในการพูดคุยกับตนเอง ผู้นำใช้การอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่จะจัดรวบวมประเด็นของปัญหาต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อที่จะหาคำตอบ วางแผน และถ้าจะใช้คำพูดเป็นวลีหนึ่งก็คือ เพื่อที่จะคิดแบบเหนือคน
สรุปการคิดที่จะเป็นผู้นำ
1. แลกเปลี่ยนจิตใจกับคนที่คุณต้อการมีอำนาจชักจูงจิตใจ
2. ประยุกต์ใช้กฏ “ความเป็นมนุษย์”
3. คิดอย่างก้าวหน้า
4. หาเวลานอกพูดคุยกับตนเอง และดึงพลังความคิดชั้นสุดยอดของคุณออกมาใช้

“คนฉลาดจะเป็นเจ้านายของจิตใจเขา คนโง่จะเป็นทาส” พูบลิเลียส ไซรัส
####
Blog 9 : ข้อคิดดีๆจากหนังสือ The Magic of Thinking Big “คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก”

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ25 มกราคม 2555 เวลา 18:15

    สนใจหนังสือด้วยน่ะค่ะ ยังมีเหลืออยู่หรือไม่คะ
    ขอรายละเอียดด้วยค่ะ

    ปุ๋ย

    ตอบลบ
  2. ครั้งแรกในเมืองไทย ที่ ที. ฮาร์พ เอ็คเคอร์ เจ้าของผลลัพธ์ระดับมหาเศรษฐีร้อยล้าน และผู้แต่งหนังสือ “ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน” ได้นำสุดยอดสัมมนาระดับโลก Millionaire Mind Intensive มาจัดขึ้นที่ เซ๊นทรัล แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ 6 - 8 กรกฎาคม 2555
    Millionaire Mind Intensive (MMI) คือสัมมนาที่ช่วยให้ผู้คนทั่วโลกชนะ “เกมการเงิน” ของพวกเขา และก้าวสู่เส้นทางแห่งอิสรภาพทางการเงินตลอดกาล ในสัมมนานี้คุณจะได้เรียนรู้ว่า
    Promotion พิเศษ!! เมื่อจอง 2 ที่นั่งปกติ จ่ายเพียง 4,900 บาทต่อที่นั่ง
    www.mmithai.com
    facebook.com/mmibangkok

    ตอบลบ